ระบบบริการการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

เนื่องจากปัจจุบันมีการเจริญเติบโตค่อนข้างมากทำให้มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นบทบาทในการติดต่อสื่อสารและใช้ในการทำงานต่างๆที่สามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกันที่ได้นำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้คือ ระบบบริการการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ ระบบสำหรับนิสิต เจ้าหน้าที่ อาจารย์ และผู้บริหาร สำหรับระบบบริการการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสำหรับนิสิต คือ ระบบที่นิสิตสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ลงทะเบียนเรียน และตรวจสอบข้อมูลของตนเองทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเกรด โดยสามารถใช้ระบบบริการการศึกษาได้จากทุกจุดที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายของมหาวิทยาลัย หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆที่เป็นส่วนบุคคล การตรวจสอบประวัติ การดูผลการศึกษา สามารถค้นหาข้อมูลโดยละเอียดของแต่ละรายวิชาได้ในข้อมูลจะประกอบไปด้วย รหัสวิชาชื่อวิชาภาษาไทย จำนวนหน่วยกิต จำนวนกลุ่มเรียนที่เปิดสอน วันเวลาเรียน ห้องเรียน จำนวนเปิดรับลงทะเบียน จำนวนนิสิตที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว จำนวนที่นั่งเหลือที่สามารถรับลงทะเบียนได้

การนำระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนช่วยในการสอนมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
1. เพื่อการสอนแบบตัวต่อตัว
2. เพื่อฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเรียน
3. เพื่อการสาธิต
4. เพื่อการเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง
5. เพื่อสอนงานด้านการเขียน
6. เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอน
7. เพื่อช่วยผู้เรียนที่มีปัญหาเฉพาะตัว

จะเห็นว่าระบบอินเตอร์เน็ตมีประโยชน์เพราะช่วยในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ สะดวกรวดเร็วเพราะปัจจุบัน มี เว็บไซต์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายแต่ละเว็บไซต์ก็ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องต่างๆ รูปแบบระบบห้องสมุดก็มีแนวโน้มในการเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บและการเผยแพร่หนังสือในเรื่องต่างๆมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลและสามารถค้นหาได้ด้วยระบบอินเตอร์เน็ตให้อ่านและค้นคว้าแบบ online ทั้งนี้การใช้อีเมล์ก็เช่นเดียวกัน โดยใช้อีเมล์ช่วยให้การติดต่อข่าวสารระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว ไม่ล่าช้าเหมือนเมื่อก่อน ยังช่วยให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ทั่วโลกอีกด้วย ในการเรียนแบบ online ยังช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของตนเอง ใครมีความสามารถมากก็เรียนได้เร็วกว่า นักเรียนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในห้องก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้มากขึ้นโดยการ ส่งอีเมล์เพื่อสอบถามได้

งานบริการแนะแนวด้านการศึกษาสำหรับนักศึกษา

สำหรับบริการแนะแนวการศึกษาเป็นบริการสำคัญที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นเพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถศึกษาด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการให้คำปรึกษาและแนะแนวด้านวิธีการศึกษาด้วยตนเอง การจัดเวลาเรียน การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา การแนะแนวอาชีพ และการศึกษาต่อในระดับสูงตลอดจนปัญหาทางด้านส่วนตัว อารมณ์ สังคม เป็นงานบริการที่มุ่งให้ความช่วยเหลือนักศึกษาในด้านการพัฒนาตนเองโดยนำเอาความสามารถที่ตนเองมีอยู่มาใช้ในการพิจารณาอย่างมีเหตุผล สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองได้ ซึ่งการบริการแนะแนวจะประกอบไปด้วย
1.การติดตามผลจากระเบียนการเรียน
2.การให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม
3.การใช้แบบสอบถามปัญหาเกี่ยวกับการด้วยการสอบถามนักศึกษาสอบถามอาจารย์ที่ปรึกษา
4.การใช้แบบทดสอบความสมารถทางการเรียน
5.การจัดระบบอาจารย์ที่ปรึกษาหรือชั่วโมงโฮมรูมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการศึกษา
นอกจากนี้ในสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยยังมีบริการจัดหางานสำหรับนักศึกษาและ แนะแนวการเตรียมตัวโดยจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการสมัครงาน การสัมภาษณ์งาน ช่วยจัดหางานชั่วคราวสำหรับนักศึกษาที่ต้องการทำงานช่วงเวลาว่างระหว่างศึกษา และที่สำคัญจัดส่งนักศึกษาเข้าฝึกงานในองค์กรต่างๆ แนะแนวการศึกษาต่อในประเทศและต่างประเทศ โดยจัดไว้ในห้องสมุดได้รวบรวมข้อมูลในเรื่องต่างๆ เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพ ตำแหน่งงานว่าง ความต้องการของตลาด
โดยบริการแนะแนวจะตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลเอาใจใส่นักศึกษาที่อยู่ในช่วงวัยของการเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ที่อาจเกิดความสับสนในการตัดสินใจ บุคลิกภาพ การปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การปรับตัวจากบ้านและครอบครัวสู่การใช้ชีวิตลำพังในหอพัก การปรับตัวในการคบเพื่อนใหม่ เพศเดียวกันและต่างเพศ ตลอดจนความวิตกกังวลในการหางานทำก่อนจบการศึกษาซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนในมหาวิทยาลัยได้
ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงมีบริการแนะแนวให้คำปรึกษาเพื่อให้ความช่วยเหลือและแนะแนวทางในการลดความวิตกกังวลและสามารถเข้าใจปัญหาและหาทางออกได้อย่างเหมาะสมการให้บริการทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานทางการศึกษาไม่ควรมองข้าม

การให้บริการการศึกษาเพื่ออนาคตที่สดใสของเด็กไทย

learnhard

หลักสูตรใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก จากการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทำให้คนในสังคมต้องการเพิ่มความรู้ความสามารถให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง จึงหันมาสนใจศึกษาต่อในหลักสูตรที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนในสังคมสถาบันการศึกษาจึงมุ่งพัฒนาหลักสูตรใหม่ ๆ อาทิ หลักสูตรที่บูรณาการระหว่างสองศาสตร์ขึ้นไป เช่น ระดับอาชีวศึกษาหลักสูตรเดียวจะมีหลายสาขาวิชา เรียนช่างยนต์จะผนวกการตลาดและการบัญชีเข้าไปด้วย เป็นต้น หลักสูตรที่ให้ปริญญาบัตร 2 ใบ และมีการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยตลอดเวลา

การจัดการศึกษามีความเป็นสากลมากขึ้น สภาพโลกาภิวัตน์ที่มีการเชื่อมโยงในทุกด้านร่วมกันทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายองค์ความรู้ กฎกติกา การดำเนินการด้านต่าง ๆ ทั้งการค้า การลงทุน การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เชื่อมต่อถึงกัน ประกอบการเปิดเสรีทางการศึกษา ส่งผลให้เกิดการหลั่งไหลหลักสูตรการเรียนการสอน บุคลากรด้านการสอน หลักสูตร จากสถาบันการศึกษาต่างประเทศเข้าสู่ไทย อันมีผลทำให้เกิดการเปรียบเทียบและผลักดันให้สถาบันการศึกษาไทยต้องพัฒนาการจัดการศึกษาที่มีความเป็นสากลที่เป็นที่ยอมรับ อีกทั้งการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนกับนานาประเทศของไทย ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการการศึกษาที่มีคุณภาพทัดเทียมในระดับสากล

ความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสทางการศึกษาลดลง เนื่องจากสภาพการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นกระแสระดับโลกเกิดขึ้นควบคู่กับคลื่นประชาธิปไตยแผ่ขยายวงกว้างถึงไทย รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ส่งเสริมการเพิ่มสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน อีกทั้งสภาพการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการเรียนการสอน ทำให้ช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงคนได้อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม อาจเป็นได้ว่าความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสทางการศึกษาจะลดลงในกลุ่มสถาบันการศึกษาของรัฐ ส่วนการจัดการศึกษาโดยสถาบันการศึกษาเอกชน ผู้เรียนที่ครอบครัวมีรายได้น้อยอาจเข้ารับบริการทางการศึกษาได้ลดลง เนื่องจากค่าเล่าเรียนแพง

โอกาสรับบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น เมื่อเปิดเสรีทางการศึกษา จะก่อเกิดการแข่งขันในการจัดการศึกษาทั้งจากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น หากพิจารณาในแง่บวก การเปิดเสรีทางการศึกษา เป็นการสร้างโอกาสให้คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ เนื่องด้วยสถาบันแต่ละแห่งจะแข่งด้านคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันอุดมศึกษา คุณภาพการศึกษาจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากการเปิดเสรีทางการศึกษา ที่เปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาต่างชาติเข้ามาเปิดการเรียนการสอน จึงเป็นแรงกดดันให้สถาบันอุดมศึกษาไทยต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น

การให้บริการทางการศึกษา

การพัฒนาคนให้เป็นทรัพยากรมนุษย์นั้น ไม่สามารถใช้ความรู้เพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีปัจจัยอื่นที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้กับผู้เรียนไปพร้อมกัน ด้วย ที่เรียกว่า “การให้บริการทางการศึกษา” โดยสถาบันการศึกษาส่วยใหญ่ให้การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว โดยอยู่ในรูปของการบริการห้องสุมด การบริการโสตทัศนศึกษา การบริการคอมพิวเตอร์ และการบริการทางการศึกษา สำหรับลำดับที่ 1-3 นั้น เห็นชัดว่าเป็นการใช้บริการที่มีลักษณะของการยืม-ใช้อุปกรณ์หรือทรัพยากร ส่วนลำดับที่ 4 นั้น เป็นลักษณะของการให้บริการในรูปของการให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยวางแผนการศึกษาให้กับผู้เรียน หรือช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการศึกษา การรักษาพยาบาล และเรื่องทั่วๆ ไป

ดังนั้นการให้บริการในลักษณะของการส่งเสริมและสนับสนุนนี้จึงมีส่วนช่วยผู้เรียนที่ ด้อยโอกาสหรือขาดความพร้อม สามารถเข้าถึงช่องทางของการศึกษาได้เท่าเทียมกับผู้เรียนรายอื่น และเมื่อผู้เรียนไม่มีอุปสรรคในการเรียนจึงทำให้ไม่ต้องหยุดพักการศึกษาและสามารถสำเร็จการศึกษาได้ ภายในระยะเวลาที่หลักสูตรกำหนด ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสให้แก่ผู้เรียนในการเลือกดำเนินชีวิตของตน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นหรือประกอบอาชีพแล้ว ยังผลให้ภาครัฐไม่ต้องแบกรับภาระในการจัดสรรงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายในการ จัดการศึกษาแต่สามารถนำงบประมาณในส่วนนี้ไปพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ เพราะฉะนั้นการให้บริการทางการศึกษาจึงถือว่า มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการให้ความรู้ทางการด้านวิชาการด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ การให้บริการทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานการศึกษาไม่ควรละเลยหรือมอง ข้ามแต่กลับต้องให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ โดยเริ่มตั้งแต่การวางแนวนโยบายในการบริหาร โดยเฉพาะการให้บริการทางการศึกษานั้น จึงจำเป็นที่ผู้บริหารต้องมีการวางแผนหรือเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องบุคลากร เครื่องมือ/อุปกรณ์ และสิ่งสำคัญคือ ต้องศึกษาถึงความต้องการของผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนมีความแตกต่างกันทั้งในระดับการศึกษา ลักษณะของหลักสูตรหรือสาขาวิชา อาจทำให้ผู้เรียนมีความต้องการที่แตกต่างกันได้ อย่างไรก็ตามผู้เขียนในฐานะที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านการให้บริการ แก่นักศึกษามีความเห็นว่า โดยทั่วไปแล้วผู้เรียนโดยส่วนใหญ่ต้องการให้หน่วยงานจัดบริการในเรื่องต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและเพียงพอกับความต้องการ ขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการให้บริการไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย

“การให้บริการทางการศึกษา” สำหรับการบริการประเภทนี้ เป็นการให้บริการที่ไม่มีตัวตน แต่มีลักษณะของการบริการแก่ผู้เรียนในเรื่องของการให้คำแนะนำ ชี้แจง หรือการขอเอกสารต่างๆ ซึ่งความต้องการของผู้เรียนมีความแตกต่างจาก 3 ประเภทที่กล่าวมา คือ ต้องช่วยให้คำแนะนำหรือชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบหรือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการ เรียน เช่น การเลือกเรียนวิชาบังคับหรือวิชาเลือกของหลักสูตร ช่วงเวลาของการลงทะเบียน การขอรับทุนจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก การขอเอกสารต่างๆ อาทิ หนังสือรับรอง หนังสือจากหน่วยงานเพื่อเก็บข้อมูลประกอบการเรียน หรือวิทยานิพนธ์ การขอใช้บริการรักษาพยาบาล การขอคำแนะนำเรื่องอื่นๆ เช่น การพัฒนาการศึกษา การเปลี่ยนแผนการเรียน เป็นต้น รวมถึงต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารหรือข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษาและการประกอบอาชีพ โดยใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์อื่นนอกเหนือจากกระดานบอร์ด เช่น อินเตอร์เน็ต เพราะทำให้ผู้เรียนได้รับข่าวสารที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

ฉะนั้นการให้ผู้เรียนได้รับความรู้เพียงอย่างเดียว แต่คาดหวังว่าจะได้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าและเป็นกำลังสำคัญของประเทศ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ฉันใด การให้บริการทางการศึกษาที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาและมีระดับ หรือปริมาณที่ไม่เพียงพอ ก็ไม่อาจช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการศึกษาได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ผู้บริหารสถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาจึงควรหันกลับมามองว่า ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการทางการศึกษาแก่ผู้เรียนในปัจจุบันมากน้อย เพียงใด